ในชีวิต นอกจากครอบครัว
ยังมีคนอีก 3 คนที่ผมอยาก ขอบคุณ (จากใจเลย)
ตอนที่ผม กำลังหาที่ฝึกงาน ด้านจิตวิทยาคลินิก ตอนที่ผมเรียน ป.ตรี ใบที่สอง
กำลังนึกว่า ไปฝึกงานที่ไหนดีนะ อยากได้ที่เขี้ยวๆ หน่อย จะได้รู้สึกว่า ชีวิตมันมีสีสัน
ตอนนั้นผมนึกถึง คลินิกเพื่อสุขภาพ โรงพยาบาลบางพลีก่อนเลย
เพราะเคยมาเจอพี่เขาแล้ว ตอนปีสอง
เลย โทรมาติดต่อ เพราะผมเก็บเบอร์คลินิกไว้
หวังว่า ซักวันจะได้มาทำงานที่นี่
วูบเดียว ผ่านไปสองปี
ในฐานะ นักจิตวิทยา
ผมได้เห็นว่า
บำบัดยาเสพติด เลิกได้จริงๆ
บำบัด ผู้ป่วยซึมเศร้า ช่วยได้จริง
ทำงานกับผู้ป่วย บางครั้งต้องนัด follow กันเป็นแรมเดือน แรมปี
ทำให้เรา เห็น ความเป็นจริงของชีวิตนักจิตวิทยาจริงๆ
ได้รู้ได้เห็น ได้สังเกต ได้ฝึกฝน ได้ถาม ได้ใช้เทคนิค ทฤษฎีอะไรมากมาย
ที่ในอดีต
ไม่เคยได้รับคำตอบจากใครอย่างเต็มปาก เต็มคำ
ว่า “บำบัด แล้ว มันหายมะ?”
การทำงานที่นี่ไม่อยู่ใต้อาณัติขององค์กร
มันไม่เหมือนงานราชการที่น่าเบื่อ
ผมอยู่กับ ของจริง คนจริง
มันเปลี่ยนชีวิตผมไปตลอดเลย……….
และ…..ถึงวันนี้ ผมจึงออกจากงานที่ผมทำ
แต่ ผมไม่ได้ออกมาจาก ความเป็นนักจิตวิทยา
“จิตวิทยามันเป็นเนื้อ เป็นตัวของเราจริงๆ”
ทุกวันนี้ ไม่่ได้ทำงาน
แค่ทำงานอดิเรกแล้วได้ตังค์
เก็บเงินซื้อรถ ซื้อกล้อง ซื้ออุปกรณ์ทำมาหากิน
มีเงินทำบุญ มีชีวิตที่มีความสุข
ทำงานกับลูกค้า ไม่มีปัญหาเลย ได้มิตรภาพกลับมา
ถ้าความสำเร็จตรงนี้ ไม่ต้องวัดกันที่เงิน
วัดที่ความสุข
ผมว่า ผมรวยมากนะ
ผมขอแบ่งบุญ แบ่งความสุขของผมนี้
ให้ พี่เปี๊ยก พี่แต๋ง พี่เก๋ หมอถาวร พี่หน่อย น้องโอม และพี่ๆทุกคนในโรงพยาบาลบางพลี
ขอบคุณนะคับ
ปล. ขอบคุณเตี่ยด้วย กับลายมืออันศักดิ์สิทธิ์
มันเป็นเงินเดือนก้อนแรกในชีวิตจริงๆ